ปัจจุบันนี้ โปรเจคเตอร์นับได้ว่าเป็นวัสดุอุปกรณ์ที่สำคัญในการเสนอข้อมูลรวมถึงมัลติมีเดียหลายอย่าง เช่น อธิบายงานของหน่วยราชการและบริษัทเอกชน ใช้ในการเป็นสื่อการสอนในสถานศึกษา หรือว่าฉายภาพยนตร์ ฯลฯ เทคโนโลยีใหม่ๆ ก็ได้ถูกนำมาใช้ในการผลิตและพัฒนาprojectorอยู่สม่ำเสมอซึ่งก็เกิดผลให้projectorมีการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติให้เหมาะสมกับภาวะช่วงปัจจุบันอย่างไม่ขาดสาย ดังเช่น การปรับปรุงให้มีน้ำหนักเบาขึ้นและรองรับการใช้งานได้หลากหลายแบบอย่างเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งให้คุณภาพของภาพที่คม กระจ่างมากเพิ่มขึ้นอีกด้วย เพราะเช่นนั้นใครที่พึงปรารถนาโปรเจคเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานและมีคุณภาพที่ดี ข้าพเจ้ามีข้อมูลที่พึงจะรู้มาบอกกล่าวกัน
 
 Brightness ความสว่าง
ผมจักเรียกว่าค่าลูเมนส์ (Lumens) เป็นหน่วยวัดของแสงทั้งมวลที่ปล่อยออกมาจากหลอดไฟฟ้า LED ที่อยู่ในเครื่องฉายภาพโปรเจคเตอร์ ค่าลูเมนส์ยิ่งมากความสว่างของภาพก็จะเยอะตาม ทำให้เราสามารถฉายชมในห้องที่สว่าง หรือที่โล่งแจ้งได้ค่าลูเมนส์สำหรับการใช้งานพิธีกลางแจ้งหรือว่าเปิดไฟในห้องสว่าง ดังเช่น หอประชุม หรือว่าห้องเรียนจะอยู่ที่ 2000lm ขึ้นไป
 
 ส่วนค่าลูเมนส์ที่ต่ำกว่านั้น จะเหมาะสมกับฉายดูในห้องหับแสงน้อย เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ตั้งใจมีโฮมเธียร์เตอร์ในที่เฉพาะบุคคลมากกว่า แต่ว่าสำหรับการฉายแบบจอไม่ใหญ่เกินไป (ช่วงฉายน้อย) ค่าลูเมนส์ประมาณ 1200lm ขึ้นไป ก็สามารถฉายแสงในห้องที่สว่างได้ ซึ่งความสว่างและความกระจ่างของภาพที่ฉายจะดีขึ้นนิดๆ ถ้าหากนำโปรเจคเตอร์ติดกำแพงหรือว่าจอสกรีนที่เอาไว้ฉายภาพ
 
 ระยะฉาย
ช่วงฉายแสงคือช่องว่างระหว่างเครื่องโปรเจคเตอร์กับฉากหรือหน้าจอสกรีน โปรเจคเตอร์แต่ละรุ่นจะมีช่วงฉายแสงไม่เท่ากัน การเลือกซื้อขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากอยากฉายแสงหน้าจอเล็กๆ ในเนื้อที่คับแคบ เช่น บนคอนโซลรถ เบาะหลังรถยนต์ หรือเบาะบนเครื่องบินก็ต้องเลือกซื้อprojectorที่มีช่วงฉายแสงตั้งแต่สั้นๆ อย่างรุ่น EX ที่มีช่วงฉายตั้งแต่ 0.1-6.0 เมตร ถอดความว่า รุ่น EX สามารถฉายแสงให้ห่างจากกำแพงได้ตั้งแต่ระยะ 10 เซนติเมตร ภาพที่ได้จะเล็กแต่ยังคมชัดมากๆ ถึงกระนั้นถ้าหากเลื่อนprojectorให้ติดผนังมากไปกว่า 10 เซนติเมตร ภาพจะเริ่มเบลอ เหมือนกันกับค่าสูงสุดของช่วงฉาย ถ้าหากเอาโปรเจคเตอร์เลื่อนออกจากผนังเกินกว่า 6 เมตร ภาพก็จะเบลอเช่นเดียวกัน
 
 ความละเอียด ( Resolution )
พวกเรามักจะเจอความละเอียดของprojectorอธิบายกับทั้งตัวเลขและตัวย่อความละเอียดที่สูงขึ้นหมายความว่าภาพละเอียดเพิ่มขึ้นที่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ก็เพราะว่าเป็นสัดส่วนของภาพฉายที่ได้ จำแนกเป็นขั้นดังนี้
 
 VGA (640 x 480) ความละเอียดต่ำเป็นprojectorมูลค่าไม่แพงไม่เหมาะสำหรับหน้าจอขนาดใหญ่
SVGA (800 x 600) ความละเอียดดีพอประมาณราคาไม่แพงและคุณภาพสมราคา
XGA (1024 x 768) ความละเอียดดีนี่คือความละเอียดที่มีเหมาะสำหรับหนังและทีวีหรืองานพรีเซ้นท์สำคัญต้องการความเนี้ยบ
WXGA (1280 x 800) ความละเอียดดีเลิศในแบบไวด์สกรีน ให้ภาพสวยอีกขั้น เหมาะกับโฮมเธียเตอร์
SXGA (1280 x 1024) ความละเอียดนี้สำหรับโทรทัศน์ความละเอียดสูงหรือการนำเสนอชิ้นงานระดับมืออาชีพตัวอย่างเช่นสถาปัตยกรรมหรือวิศวกรรม
UXGA (1600 x 1200) และ QXGA (2048 x 1536) ความละเอียดสูงมาก เหล่านี้เหมาะกับ Blu - ray และแหล่งวิดีโอความละเอียดสูงอื่น ๆ
 
 หลอดภาพ (Lamp life)
หลอดภาพนับเป็นข้อสำคัญสำหรับโปรเจคเตอร์ จักคุ้มไม่คุ้มอยู่ที่อายุหลอดภาพ ฉะนั้นก่อนที่จะซื้อโปรเจคเตอร์จึงควรที่จะดูว่าโปรเจคเตอร์รุ่นนั้น การันตีหลอดภาพ กี่เดือน กี่ปี ปกติส่วนใหญ่แล้วจะประกันหลอดภาพ 2000 ชั่วโมง หรือ 6 เดือน แนะนำว่าให้เลือกโปรเจคเตอร์ที่มีความสว่างและความละเอียดสูงไว้ก่อน และถ้าหากprojectorจ้าเกินไปก็สามารถที่ปรับลดแสงของหลอดภาพได้ ทั้งยังสามารถที่จักยืดอายุหลอดภาพโปรเจคเตอร์ของคุณได้อีกด้วย
 
 ช่องต่อสายสัญญาณ ( Data Signal Port )
คือสิ่งที่ท่านต้องคำนึงถึงว่าช่องต่อสายสัญญาณของโปรเจคเตอร์รุ่นที่เลือกจะสามารถรองรับการใช้งานที่คุณต้องการได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นควรรองรับการใช้งานในวันข้างหน้าของพอร์ตสายสัญญาณด้วยจะยิ่งดีมาก
 
 การประกันผลิตภัณฑ์และบริการ (Warranty & services)
โปรเจคเตอร์เป็นวัสดุอุปกรณ์ที่มีราคาแพง ถ้าหากเกิดการเสียหรือเสียหายกระทั่งไม่อาจจะใช้งานได้ขึ้นมา อาจจะเป็นเรื่องยากพอควร ดังนั้นจึงควรไต่ถามเรื่องช่วงรับการรับประกันชิ้นส่วนต่างๆของโปรเจคเตอร์และหลอดภาพ รวมถึงศูนย์บริการอย่างพิถีพิถันก่อนซื้อ ในกรณีที่เกิดมีปัญหากับโปรเจคเตอร์ขึ้นมาจะได้ส่งเข้ารับการตรวจสอบและปรับปรุงได้อย่างสะดวก
 
 และนี่คือเรื่องที่จำเป็นต้องทราบเกี่ยวกับโปรเจคเตอร์ในสมัยนี้ที่ผมมานำเสนอ วาดหวังว่าจะเป็นผลดีกับผู้ที่ให้ความสนใจจะซื้อมาใช้งานไม่มากก็น้อยนะขอรับ

Tags : โปรเจคเตอร์,โปรเจคเตอร์ ราคาถูก,projector