สวัสดี บุคคลทั่วไป

กล้องถ่ายรูป VS กล้องถ่ายรูปโทรศัพท์เคลื่อนที่ ถ้าหนักห่างกันไม่กี่ขีด...แล้วเธอจักเลือกอะไร?

  • 0 ตอบ
  • 203 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
ครั้นเมื่อสิ่งที่อยู่ข้างหน้า มันน่ารำลึกจนต้องรวบรวมบันทึกออกมาเป็นรูปถ่าย และมันจักวิเศษขึ้นไปอีก ครั้นในภาพมีคนพิเศษอยู่ด้วย ซึ่งมั่นใจว่าสิ่งที่จะช่วยให้คุณได้เก็บภาพความทรงจำดีๆเหล่านั้น นอกจากสมอง และหัวใจของเราแล้ว ก็ต้องเป็น "กล้อง" นั่นเอง ซึ่งในยุคนี้ ใครๆ ต่างก็มีโทรศัพท์มือถือที่มีกล้องถ่ายรูปพร้อมมาด้วย เพราะง่ายต่อการใช้งาน มิจำเป็นสะพายกระเป๋ากล้องใบใหญ่ ยิ่งกว่านั้นยังมีความชัดมิได้แตกต่างไปจากกล้องถ่ายรูป DSLR หรือ Mirrorless ซะทีเดียว ถึงกระนั้นความเป็นจริงนั้นมันยังมีอะไรอีกเยอะแยะที่ต่างกันอยู่มากเลยเชียว
 
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเซนเซอร์ เพราะกล้องถ่ายรูปจักมีเซนเซอร์ที่ใหญ่กว่าเซนเซอร์ของกล้องถ่ายภาพจากสมาร์ทโฟน ยิ่งขนาดเซนเซอร์ใหญ่เท่าใด ก็จะรวบรวมแสงได้ดีกว่า ได้รายละเอียดภาพที่ยิ่งกว่า มีมิติเหนือกว่า รวมถึงทำให้ปรับความตื้นลึกของภาพได้อย่างนานาประการมากกว่า เนื่องด้วยมือถืออาจจะทำได้ไม่ดีเท่ากล้องเท่าไหร่นัก และสิ่งเหล่านี้ยังส่งผลต่อคุณภาพของภาพที่ได้ด้วย ยิ่งกว่านั้นยังช่วยลด Noise หรือเม็ดสีที่แตกในภาพ โดยครั้นเมื่อย้อนกลับไปมาดูภาพจากกล้องสมาร์ทโฟนก็จะเห็น Noise มากกว่าภาพจากกล้องทั่วๆ ไป นั่นก็ทำให้เห็นแล้วว่าเซนเซอร์จาก กล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่เล็กกว่ากล้องถ่ายรูปทั่วๆ ไป
 
ถัดจากนั้นก็จะเป็น Optical zoom ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ทำให้กล้องถ่ายภาพเหนือกว่ากล้องถ่ายรูปจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ ถ้าหากเป็นการขยายของกล้องถ่ายรูป เจ้าสามารถปรับได้ตามความต้องการได้เลย ซึ่งน้อยรายในหมู่แบรนด์สมาร์ทโฟนที่จะมีสรรพคุณนี้ เพราะว่าภาพบางภาพ ก็จำเป็นจะต้องใช้การขยายแบบ Optical เพื่อให้ได้ความข้องเกี่ยวของสิ่งของบนภาพที่ดียิ่ง รวมไปถึงหน่วยความจำก็ยังสำคัญ เพราะว่าในโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเจ้าอาจจะมีทั้งรูปถ่าย เพลง หนัง หรือไฟล์วิดีโอ ซึ่งนั้นเป็นปัญหาแน่นอน หากเธอคิดว่าจะใช้กล้องสมาร์ทโฟนชักรูปเธอตลอดทริปที่กินซ่าไม่ก็พาคู่ควงเที่ยว Universal Studios เพราะคุณคงจะไม่อยากมานั่งลบรูปถ่าย ลบบทเพลงโปรด หรือไม่ลิสหนังดังของเจ้าหรอก แต่หากว่ายอมสะพายกล้องถ่ายภาพสักตัว พร้อมด้วยเมมรี่การ์ดสำรองสัก 2-3 อัน แน่นอนว่าเจ้าได้ทั้งภาพถ่ายที่มากมาย และไฟล์วิดีโอตลอดทั้งทริปของเธอแน่นอน
 
นั่นเป็นข้อมูลขั้นแรกว่าไฉนเราถึงต้องยอมสะพายกล้องถ่ายรูปตัวหนัก แล้วต้องยอมพักกล้องมือถือไว้ก่อน และอาจหยุดพักยาวๆ เลย ถ้าหากได้รู้จักกับกล้องถ่ายภาพตัวนี้ นั่นก็คือ Olympus OM-D E-M10 III ซึ่งกล้องถ่ายรูป Olympus ตัวนี้ เป็นรุ่นที่ 3 ในซีรี่ส์ OM-D ซึ่งก่อนหน้าจะมีรุ่นพี่เป็น E-M5 และ E-M1 นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าตัวล่าสุด มันจะต้องดีกว่าตัวก่อนๆ แน่นอน เรามาดูประเด็นสำคัญ ๆ ของกล้อง Olympus OM-D E-M10 III ดีกว่าว่าคุ้มค่าต่อการพกพา ยิ่งกว่ากล้องถ่ายรูปโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือไม่
 
กล้อง Olympus OM-D E-M10 III เป็นกล้องถ่ายภาพเปลี่ยนเลนส์ได้ระบบ Micro Four Thirds ใช้เซนเซอร์ 4/3 Live MOS Sensor ความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซล และให้ภาพที่ขนาดใหญ่มากที่ 4608 x 3456 และ Ratio ที่ลงตัวของภาพคือ 4:3 ซึ่งเซนเซอร์ที่ว่ามานี่อาจจะมิใหญ่มาก แต่ก็สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี จุดดีของกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ ในความคิดส่วนตัวน่าจะเป็นเรื่องของการระบบกันสั่นของเขา เนื่องมาจากกล้องถ่ายรูป Olympus รุ่นนี้ เป็นระบบกันสั่น 5 แกน สามารถลดความสะเทือนได้ถึง 4 Stop ซึ่งหากว่าถ่ายด้วยความไวชัตเตอร์ที่ 1/10 วินาที แล้วถือถ่ายก็ยังทำได้ดีเลย
 
และด้วยความที่ต้องมี 3 สิ่งต่อไปนี้ ที่ทำให้ระบบกันสั่น 5 แกนทำงานได้ดี นั่นก็คือ เลนส์ เซ็นเซอร์รับภาพ และโปรเซสเซอร์ประมวลภาพ ซึ่งกล้อง Olympus ตัวนี้ใช้โปรเซสเซอร์ประมวลภาพ TruePic VIII จึงให้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูงงดงามแม้ในที่แสงน้อย โดยที่ท่านมิจำเป็นจะต้องตั้งค่า ISO สูงๆ ด้วย อีกทั้งยังป้องกันการเกิด Noise ด้วย และด้วยระบบกันสั่น 5 แกนนี้ อีกทั้งทำให้การบันทึกภาพยนตร์ของท่านมิเป็นอุปสรรคเช่นกัน โดยกล้อง Olympus OM-D E-M10 III สามารถบันทึกภาพยนต์คุณภาพสูงถึง 4K เลยเชียว ที่ถึงแม้จะถือด้วยมือ และมิได้มีเครื่องมือเสริมใดๆ ก็ยังให้ภาพที่ได้ออกมาสะดวก ถ้าเกิดสั่นไหว ก็เกิดได้น้อยที่สุด ยิ่งไปกว่านี้ยังสามารถแยกเฟรมสำหรับบันทึกภาพนิ่งจากวิดีโอ 4K ที่บันทึกไว้เช่นกัน

 จะเห็นว่านี่แค่ข้อเด่นเรื่องเดียวของกล้องถ่ายภาพ Olympus OM-D E-M10 III ก็เอาชนะกล้องถ่ายรูปมือถือขาดลอยแล้ว นอกจากนี้ยังมีคุณลักษณะหลายอย่าง อีกมากมายเลยที่ยังไม่ได้อ้างอิงถึง ตัวอย่างเช่น โหมดถ่ายภาพ Auto ที่ให้เธอปรับตั้งค่าตามที่เธอต้องการ หรือโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูป Scene อีกทั้งโหมดถ่ายภาพขั้นสูง Advanced Photo ที่มีให้เลือกมากมาย ได้แก่ Live Composite, Live Time และ ถ่ายภาพซ้อน เป็นต้น และโหมด Art Filter ซึ่งก็มีให้เลือกเพียบอยู่เหมือนกัน เพื่อภาพมีความน่าดึงดูดใจมากยิ่งขึ้น และจุดแข็งอีกอย่างของกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ คือมีขนาดที่เล็ก และพกพาง่ายมาก โดยมีน้ำหนักเฉพาะแค่บอดี้เพียง 362 กรัม เพียงเท่านั้น ตัวนี้จึงสามารถลบคำปรามาสที่ว่า "กล้องมันหนัก" ไปได้เลย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : olympus ราคา

Tags : Olympus,กล้อง olympus,olympus ราคา