ขลุ่ย  สมัคร ufabet เป็นอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีโบราณของไทยประเภทหนึ่ง คาดคะเนว่า อาจจะมีการเกิดขึ้นก่อนหรือในยุคกรุงจังหวัดสุโขทัยเป็นราชจังหวัด ร่วมยุคกับอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีชนิด กลอง ฆ้อง กรับ พิณเพียะ แคน ขลุ่ย ปี่ ซอ รวมทั้งกระจับปี่ แม้กระนั้นมีหลักฐานกระจ่างปรากฏ ในกฎมนเฑียรบาลยุคพระบรมตรีโลกที่นาถ (พุทธศักราช 1991-2031) ที่กรุงศรีอยุธยาว่าห้ามขับร้องหรือเป่าขลุ่ย เป่าปี่ สีซอ ดีดกระจับปี่ ดีดจะเข้ ตีกลองสองหน้าในเขตพระราชฐานก่อนจะมาเป็นขลุ่ยอย่างที่ปรากฏรูปร่างในขณะนี้ ขลุ่ยได้ผ่านการพัฒนาการมาเป็นระยะเวลานาน มาจากปี่อ๋อซึ่งตัวปี่หรือเลาทำมาจากไม้รวกท่อนเดียวไม่มีข้อ และก็มีลิ้นซึ่งทำด้วยไม้อ๋อลำเล็กสำหรับเป่าให้กำเนิดเสียง ต่อจากนั้นก็เลยเปลี่ยนแปลงรูปร่าง แล้วก็แนวทางเป่าจนกระทั่งเปลี่ยนมาเป็นขลุ่ยอย่างที่เรียกกันในขณะนี้ว่าเป็นขลุ่ยเพียงแต่ออ
ชนิดของขลุ่ย

ชาวไทยเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ทางศิลป์ ufabet  จะมองเห็นได้ว่างานหัตถกรรมของไทยสวยไม่แพ้ของเชื้อชาติใดในโลก ประกอบกับความคิดริเริ่มที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมก็เลยทำให้พวกเรามีมรดกทางด้านศิลปวัฒนธรรมอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ขลุ่ยก็อย่างเดียวกัน นอกเหนือจากขลุ่ยเพียงแต่ออ ซึ่งตกทอดคุณสมบัติแล้วก็รูปร่างมาแม้กระนั้นโบราณแล้ว ถัดมาบรรพบุรุษของพวกเรายังได้คิดค้น "ขลุ่ยหลีบ" ไว้สำหรับเล่นคู่กับขลุ่ยเพียงแต่ออ "ขลุ่ยอู้" ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นในยุคสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อใช้ประกอบกิจการละเล่นละครดึกดำบรรพ์ ยิ่งกว่านั้น ก็ยังมีขลุ่ยที่เรียกชื่ออันอื่นอีก ได้แก่ ขลุ่ยก้อนกรวด ขลุ่ยเคียงออ ขลุ่ยรองออ ขลุ่ยออร์แกน เพื่อเหมาะสมกับการที่จะไปเล่นผสมกับวงดนตรีจำพวกต่างๆ
เป็นอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีไทย จำพวกเครื่องเป่าจำพวกไม่มีลิ้น ทำมาจากไม้รวกบ้องยาวๆข้างหน้าเจาะรูเรียงกัน สำหรับปิดเปิดเพื่อเปลี่ยนเสียง ตรงที่เป่าไม่มีลิ้นแม้กระนั้นมีดาก ซึ่งทำด้วยไม้อุดเหลาเป็นท่อนกลมๆยาวราวๆ 2 นิ้ว ใส่ลงไปอุดที่ปากของขลุ่ย แล้วบากด้านหนึ่งของดากเป็นช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆพวกเราเรียกว่า ปากนกแก้ว เพื่อลมส่วนหนึ่งส่วนใดผ่านเข้าออกกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดเสียงขลุ่ยลมอีกส่วนจะวิ่งเข้าไปปลายขลุ่ยประกอบกับนิ้วที่ปิดเปิดบังคับเสียงกำเนิดเป็นเสียงสูงต่ำตามอยากใตปากนกแก้วลงมาเจาะ 1 รู เรียกว่า รูนิ้วค้ำ เวลาเป่าจำเป็นต้องใช้หัวแม่มือค้ำปิดเปิดที่รูนี้ บางเลาทางด้านขวาเจาะเป็นรูเยื่อ ปลายเลาขลุ่ยมีรู 4 รู เจาะตรงกันข้ามแต่ว่าซ้อนกันนิดหน่อย ใช้สำหรับร้อยเชือกห้อยเก็บหรือเกี่ยวมือก็เลยเรียกว่า รูร้อยเชือก รวมขลุ่ยเลาหนึ่งมี 14 รูด้วยกัน รูปร่างของขลุ่ยเมือพินิจแล้วจะเป็นอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีที่โบราณที่สุดประเภทหนึ่ง จากหลักฐานที่เจอขลุ่ยในโลงศพเมียเจ้าผู้ครองเมืองไทยที่ริมฝั่งแม่น้ำฮวงโหซึ่งมีหลักฐานจารึกศักราชไว้ไม่ต่ำลงมากยิ่งกว่า 2,000 ปี ปัจจุบันนี้ขลุ่ยราคาแพงสูง เพราะไม้รวกจำพวกที่ทำขลุ่ยมีน้อยลงรวมทั้งใช้เวลาทำมากมายก็เลยใช้วัตถุอื่นมาเจาะรูซึ่งเร็วกว่า ดังเช่น ไม้เนื้อแข็ง ไผ่ ไม้ชิงชัน ไม้ประคอง บางครั้งบางคราวบางทีอาจทำมาจากท่อที่เป็นพลาสติกแต่ว่าประสิทธิภาพเสียงไม่ดีเท่าขลุ่ยไม้ ขลุ่ยที่มีเสียงเพราะมากมายส่วนมากจะเป็นขลุ่ยผิวไม้แห้งสนิทขลุ่ยใช้เป่าในวงเครื่องสายไทย วงมโหรี และก็ในวงพิณพาทย์ไม้นวม วงพิณพาทย์ดึกดำบรรพ์ การเทียบเคียงเสียงขลุ่ยเพียงแต่ออกับระดับเสียงดนตรีสากล เสียงโดของขลุ่ยเพียงแต่ออ เทียบเคียงได้พอๆกับ เสียง ครั้งแฟล็ต ในระดับเสียงทางสากล เดี๋ยวนี้ได้มีการทำขลุ่ยเพียงแค่ออที่หรูหราเสียงพอๆกับระดับเสียงสากล เรียกว่าขลุ่ยเพียงแต่ออ ออร์แกนบ้าง หรือขลุ่ยก้อนกรวดบ้าง แต่ว่าในทางดนตรีสากลจะเรียกเป็นขลุ่ยไทยหมด จะเอาระดับเสียงมาเป็นตัวแยกขนาดยกตัวอย่างเช่น ขลุ่ยคีย์ C, ขลุ่ยคีย์ D, ขลุ่ยคีย์Bb, ขลุ่ยคีย์ G ฯลฯ เป็นขลุ่ยที่มีขนาดปานกลาง ความยาวราว 16 นิ้วระดับเสียงกลางไม่สูงไม่ต่ำเหลือเกิน เป็นขลุ่ยที่มีผู้นิยมเล่นสูงที่สุด นอกเหนือจากการที่จะเป่าเพื่อความเพลิดเพลินรวมทั้งความรื่นเริงส่วนตัวแล้ว ขลุ่ยเพียงแต่ออยังเป็นอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีชนิดเครื่องตาม (เหมือนกับระนาดทุ้ม และก็ ซออู้) ตามจารีตประเพณีในวงเครื่องสาย และก็ วงมโหรี
ขลุ่ยหลิบตา