สวัสดี บุคคลทั่วไป

สภาพอากาศในบ้านบริสุทธิ์ไม่ยาก ด้วยที่ฟอกสภาพอากาศ

  • 0 ตอบ
  • 209 อ่าน
            ปัจจุบันอากาศที่พวกเราสูดไปเกือบจะเหมือนเป็นสภาพอากาศประกอบด้วยแค่ฝุ่นและสิ่งสกปรกที่แปลกปลอมเข้าในนั้นอาจเป็นเหตุให้เจ็บป่วยไม่ยาก หรือว่าหายใจไม่คล่องได้ เพราะฉะนั้นแล้วการที่อาศัยท่ามกลางมลพิษสิ่งสกปรกเราจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จำต้องสูดดมอากาศเอาพวกนั้นเข้าไปภายในตัว
            อย่างไรก็ดีตอนเรากลับมาที่อยู่อาศัยเราอาจจะคิดว่าสภาพอากาศภายในที่พักอาศัยใสสะอาดกว่าข้างนอกก็จริงอยู่แต่ยังคงมีฝุ่นละอองที่มาจากข้าวของในบ้านที่บางครั้งเราอาจจะเห็นว่าก็ชะล้างเป้นประจำ หรือที่ติดมาพร้อมกับเสื้อผ้าเราที่ออกไปด้านนอกมาทั้งวัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้กระตุ้นให้เราจำเป็นต้องอยู่กับมลภาวะเป็นประจำ ดังนั้นแล้วเราก็เลยจำเป็นต้องมีผู้ช่วยที่มีชื่อว่า เครื่องฟอกสภาพอากาศ เอาไว้ภายในบ้านเพื่อทำให้ที่พักอาศัยสะอาดสะอ้านรวมทั้งเราได้รับสภาพอากาศบริสุทธิ์มั่งกับแต่ละวัน
            โดยที่ฟอกอากาศที่ใช้งานในบ้านมี 4 ลักษณะด้วยกันเช่น 1. เครื่องกรองสภาพอากาศลักษณะใช้งานแผ่นกรองคาร์บอน (Carbon Air Purifiers) โดยตามธรรมดาแล้วคาร์บอนประกอบด้วยคุณสมบัติในการดูดจับสารพิษพร้อมด้วยกลิ่นอยู่แล้วจึงเกิดการเอามาทำเป็นไส้กรองอากาศที่ทำมาจากคาร์บอนให้ทำงานในขั้นตอนกรองสภาพอากาศ 2. ที่กรองสภาพอากาศแบบใช้ประจุไฟฟ้า (Ionic Air Purifiers) โดยที่กรองสภาพอากาศประเภทนี้มีการกรองประจุไฟฟ้ามาใช้เพื่อดักขี้ผงทั้งหลาย เนื่องจากประจุไฟฟ้าช่วยล่อละอองได้ดีแม้ว่าจะมีอนุภาคเล็กก็แล้วแต่ อย่างเช่นขี้ผงแบบปกติ ขนสัตว์ แม้แต่ควันบุหรี่ ส่งผลให้เครื่องกรองอากาศกระนี้เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่มีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ หรือว่ามีอาการภูมิแพ้ 3. ที่ฟอกอากาศแบบศักยภาพในการสกัดมาก (High Efficiency Particle Arresting) หรือที่เรียกว่า HEPA ถือเป็นที่ฟอกอากาศที่มีคุณภาพสำหรับสกัดอากาศดีมากด้วยความที่ตัวไส้กรองทำมาจากใยแก้วละเอียด สามารถสกัดสภาพอากาศให้หมดจดมากที่สุด 99% อย่างไรก็ตามข้อเสียก็คือไม่สามารถดูดซึมควันหรือดูดกลิ่นได้ คือที่กรองสภาพอากาศที่โดยมากใช้ภายในโรงพยาบาลหรือไม่ก็โรงงานบางชนิด โดยที่ที่กรองมีอายุการทำงานยาวนานมากถึง 4 ปี  4. เครื่องกรองอากาศแบบผสาน ประกอบด้วยที่กรองอากาศที่ลักษณะผสม 2 ระบบไปด้วยกันคงคือผสมของ Carbon พร้อมทั้ง Ionic หรือว่า HEPA กับ Ionic ก็ได้สุดแล้วแต่ว่าผู้สร้างอยากได้ให้ที่ฟอกสภาพอากาศใช้งานออกมาในประเภทใด
            เทียบจากแบบที่กรองอากาศทั้งหมดที่มีที่พูดถึงคงจะที่มีหลายคนคลางแคลงใจเกี่ยวกับแล้วจะที่มีวิธีการคัดที่กรองสภาพอากาศอย่างใดให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ข้อแรกควรจะคุ้นเคยสภาพอากาศข้างในที่พักตัวเองว่าลักษณะอากาศในตัวบ้านเป็นยังไง ที่มีละอองมากหรือเปล่า หรือมีกลิ่นไม่ดีหรือไม่จึงค่อยเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศถัดจากนั้นที่การคัดเลือกตัวเครื่องกรองสภาพอากาศโดยเครื่องที่ีมีประสิทธิภาพควรมี  2 หน่วยภายในเครื่องเดียวคือ  สกัดขี้ฝุ่น ดักจับละออง รวมทั้งดูดซับกลิ่นข้างในเครื่องเดียว รวมถึงมีแรงที่จะสามารถดึงสภาพอากาศโดยรอบ สำหรับที่จะไปกรองรวมทั้งปล่อยอากาศสะอาดออกมา ตรวจสอบดูให้ดีว่าระบบสกัดสภาพอากาศพร้อมกับแผ่นกรองเป็นลักษณะที่คุณมุ่งหวังหรือไม่พร้อมกับสามารถเอาไปชะล้างได้ง่ายหรือเปล่ารวมถึงพวกสนนราคาแผ่นกรองเป็นแบบไหนเพื่อที่จะเวลาที่กรองหมดเวลาจะสามารถซื้อง่าย ท้ายที่สุดคือการคิดทบทวนตัวเลขที่เรียกว่า  CADR (Clean  Air  Delivery  Rate)  ค่านี้ก็คือค่าเอาไว้เทียบคุณภาพในการใช้งานสำหรับเครื่องกรองสภาพอากาศโดยค่านี้จะมีการสูงขึ้นถ้ามีคนในห้อง
            ในด้านจากการทำงานพร้อมกับการดูแลรักษาคือ การใช้งานสำหรับที่กรองอากาศควรปิดห้องเพื่อให้เครื่องฟอกอากาศใช้งานเอาไว้ก่อนที่จะเข้าไปในห้องเพื่อให้อากาศหมดจดก่อน เรื่องการเอาใจใส่ล้างเป็นน่าจะเก็บกวาดแผ่นกรองอย่างน้อยทุก  3 เดือน  ด้วยการนำมาชะล้างแล้วไปผึ่งให้แห้ง  เพื่อให้ทำลายเชื้อโรค  หรือไม่ก็ชะล้างตามที่หนังสือคู่มือบ่งชี้ไว้ อย่างไรก็ตามส่วนผู้ใช้งานที่ไม่อยากล้างเป็นประจำ ก็ควรจะเลือกซื้อประเภทประจุไฟฟ้า เนื่องจากแม้ว่าจะสนนราคาสูงกว่าประเภทอื่นๆแต่ไม่ได้ไม่จำเป็นต้องชะล้างบ่อยรวมถึงทำนุบำรุงง่ายกว่า
จะเห็นได้ว่าเครื่องกรองอากาศประกอบด้วยหลายประเภทและวิธีสำหรับเลือกให้เหมาะกับการใช้งานก็ไม่ได้ยากแบบที่คิดนอกจากนั้นแล้วการดูแลรักษาความสะอาดสะอ้านก็ยังง่ายดายอีกเช่นกัน โดยเครื่องกรองอากาศมีตัดสินใจซื้อกันหลากหลายแบรนด์ด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Sharp , Philip , Dyson ,Blueair ฯลฯ เริ่มตั้งแต่สนนราคา 2-3พันบาทจนถึง 4-5 หมื่นเลยทีเดียว
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เครื่องฟอกอากาศ ราคา

Tags : เครื่องฟอกอากาศ,เครื่องฟอกอากาศ ราคา,เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี