สวัสดี บุคคลทั่วไป

Huawei P10 และ Huawei P10 Plus อีกหนึ่งทางเลือกที่ยังคุ้ม

  • 0 ตอบ
  • 221 อ่าน
ภายในปี 2018 แม้ Huawei จะเปิดตัว Huawei P20(หัวเว่ย p20) และ P20 Pro(หัวเว่ย p20Pro)ออกมาแล้ว โดยมาในสเปคโหดถูกใจคนชอบของแรงเช่นเคยโดย P20 Pro จะมาพร้อมกับกล้อง 3 ตัว (P20 มีแค่ 2 ตัว) พร้อมเลนส์ Leica และเทคโนโลยี AI ที่จะทำให้กล้องรู้จักวัตถุและเลือกการตั้งค่าที่พอเหมาะ สนนราคา Huawei P20 อยู่ที่ 19,990 บาท และ Huawei P20 Pro ราคา 27,990 บาท

 หลายคนคงจะมีคำถามว่า แล้วรุ่นที่ออกมาก่อนหน้าในปี 2017 อย่าง Huawei P10 (หัวเว่ย p10) และ Huawei P10 Plus (หัวเว่ย p10Plus) นั้นยังควรซื้อหามาใช้งาน อยู่หรือไม่ในตอนนี้ อีฉันจึงจะมาพิจารณาสเปคและข้อเด่นให้ได้ดูเพื่อช่วยในการตัดสินใจ       


  •  สีสันเฉพาะเจาะจง


P10 และ P10 Plus ได้ใช้บริการของ Pantone บริษัทดีไซน์ระดับโลกสร้างสีเฉพาะอย่าง สีเขียว Greenery และ สีน้ำเงิน Dazzling Blue สำหรับสีเขียว Greenery เป็นสีที่ให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ส่วนสีน้ำเงิน Dazzling Blue นั้นเป็นสีที่ดูนุ่มลึกเสมือนหนึ่งสีจากน้ำทะเล โดยสีที่มีออกมาให้เลือกทั้งหมดที่มี คือ Greenery - สีเขียว, Dazzling Blue - สีน้ำเงิน,Dazzling Gold - สีทอง (สะท้อนแสง),Graphite Black - สีดำ,Mystic Silver - สีเงิน,Prestige Gold - สีทอง,Rose Gold - สีชมพู,Ceramic White - สีขาว
 

  • กล้องถ่ายรูปหลังคู่ แบบ DUAL CAMERA 2.0


ถ้าหากเอ่ยถึงแบรนด์ Huawei สิ่งที่นึกถึงเป็นลำดับแรก ๆ ก็อาจจะเป็นเรื่องกล้องถ่ายรูป โดยรุ่นนี้เป็นกล้องถ่ายรูปหลังคู่พร้อมทั้งเลนส์ที่ได้รับการยืนยันจาก Leica ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล (mono) + 12 ล้านพิกเซล (RGB) และยังได้รับการอัพเกรดเป็น Leica Dual Camera 2.0 Pro Edition ในรุ่น P10 Plus อีกด้วย พร้อมทั้งระบบ OIS กันสั่น, Hybrid Zoom 2 เท่า และ 4-in-1 hybrid auto-focus ที่จะช่วยให้การจับภาพนั้นนิ่ง เพิ่มเติมสมรรถนะในการซูม โฟกัสได้ไวเพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านี้ยังมีโหมดการถ่ายรูปใหม่เพิ่มเข้ามานั่นก็คือโหมด portrait ที่ใช้เทคโนโลยี Leica Style Portraiture ซึ่งเป็นโหมดที่จะช่วยให้การถ่าย portrait นั้นมีมิติมากขึ้น และเทคโนโลยีตรวจหาใบหน้าแบบ 3 มิติ
 
 Huawei P10 และ P10 Plus ไม่ได้ใช้เลนส์ชนิดเดียวกัน เพราะ P10 Plus มาพร้อมกับเลนส์อีกรุ่นของ Leica ที่มีชื่อว่า SUMMILUX โดยมีค่า F อยู่ที่ F1.8 ซึ่งจะช่วยในเรื่องของถ่ายรูปแบบ Bokeh ได้ดีขึ้น รวมไปถึงการชักรูปตอนค่ำก็ดีขึ้นอีกด้วย ส่วนของ P10 ยังคงใช้เป็นรุ่น SUMMARIT แบบเดียวกับตอน Mate 9 และ P9 โดยค่า F นั้นอยู่ที่ F2.2


  •  กล้องหน้าของ LEICA


P10 และ P10 Plus นั้นเป็นมือถือตัวแรกของโลกที่มาพร้อมกล้องถ่ายรูปหน้ากับเลนส์ที่ผ่านการรับรองจาก Leica โดยกล้องหน้าของทั้งคู่นั้น มีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล และมีค่า F อยู่ที่ F1.9 ช่วยให้การถ่ายภาพในที่มืดค่ำได้ดีขึ้น เนื่องจากสามารถรับแสงได้มากขึ้นถึง 2 เท่า
 
 4. ความแรงของ CPU KIRIN 960
ชิปที่ใช้ภายใน Huawei P10 และ P10 Plus คือ Kirin 960 ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Mate 9 และ Mate 9 Pro โดยทาง Huawei ก็เน้นในเรื่องของการใช้งานว่าความไวจะมิลดน้อยลงเมื่อใช้งานไปนานๆ ทั้งยังมี Machine Learning พฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า
 

  • ซอฟต์แวร์ EMUI 5.1


P10 และ P10 Plus ใช้ EMUI 5.1 โดยคุณลักษณะไฮไลท์คือการนำซอฟต์แวร์จาก GoPro มาใช้ ซึ่งเป็นการนำรูปถ่ายที่เป็นไฮไลท์ต่างๆ จากในอัลบั้มมาโชว์เป็นวิดีโอ


  •  โทรศัพท์เคลื่อนที่ตัวแรกที่รองรับสัญญาณ 4.5G LTE


Huawei เป็นแบรนด์ผู้สร้างอุปกรณ์เครือข่ายรายใหญ่ด้วย จึงทำให้ P10 Plus เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับการใช้งาน 4.5G LTE แถมยังมาพร้อมกับเสาสัญญาณภายในตัวถึง 4 เสา ส่วนของ P10 ยังคงเป็น 2 เสาอยู่ดังเดิมนะครับผม


  •  แบตเตอรี่ที่ยิ่งใหญ่ขึ้น และชาร์จเร็วขึ้น


P10 และ P10 Plus มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีความจุใหญ่ขึ้นพอเทียบกับตอน P9 และ P9 Plus ซึ่งแบตเตอรี่ของ P10 นั้นมีขนาดอยู่ที่ 3,200 mAh ด้าน ของ P10 Plus นั้นมีขนาดอยู่ที่ 3,750 mAh


  •  ราคาที่แสนจะถูกในปัจจุบัน


ในหนแรกที่เปิดตัว Huawei P10 และ Huawei P10 Plus ราคาอยู่ที่
Huawei P10 (32GB) มูลค่า 17,900 บาท
Huawei P10 (64GB) ราคา 19,900 บาท
Huawei P10 Plus (64GB) ราคา 23,900 บาท

 แต่ภายหลังที่ Huawei P20 และ HuaweiP20 Pro เปิดฉากมา ราคาของ HuaweiP10 และ HuaweiP10 Plus นั้นไม่แพงลงมาก บางเวลาถ้าหากซื้อพร้อมกับโปรโมชั่นราคาก็ลดลงกว่าครึ่งเลยเทียว

 นี่เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้ผู้ที่คิดจะซื้อ Huawei P10 และ Huawei P10 Plus ในขณะนี้ หวังว่าจะเป็นผลประโยชน์ไม่มากก็น้อย

Tags : huawei p10,หัวเว่ย p10,huawei p10 ราคา