สวัสดี บุคคลทั่วไป

ที่ดูดฝุ่น ผู้ช่วยเพื่อช่วยงานบ้าน

  • 0 ตอบ
  • 219 อ่าน
            ที่ดูดฝุ่นนับว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประจำบ้านเลยก็เป็นไปได้ ด้วยความที่ใช้ง่าย คล่องแคล่ว และช่วยลดเวลาสำหรับทำความสะอาดที่อยู่อาศัยส่งผลให้เกือบทุกที่อยู่อาศัยควรจะมีเครื่องดูดฝุ่นไว้ในที่พัก แต่ว่าการที่จะตัดสินใจซื้อที่ดูดฝุ่นสำหรับที่จะเอามาใช้งานซักอันจำเป็นจะต้องประกอบด้วยเหตุผลหลายอย่างมาเกี่ยวในการเลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งานดังนั้นมาดูกันว่าจะต้องมีวิธีในการเลือกซื้อและมีแบรนด์ไหนเสนอแนะกันบ้าง
            เริ่มที่คือ ลักษณะของที่ดูดฝุ่น เป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะว่าชนิดสำหรับเครื่องดูดฝุ่นที่ต่างกันก็เหมาะกับการทำงานที่ไม่เหมือนกันออกไป ที่ดูดฝุ่นมีอยู่ 4 ชนิด
1.) ที่ดูดฝุ่นชนิดแห้ง เหมาะสำหรับการทำงานที่ห้องธรรมดา แต่ว่าไม่เหมาะกับบนพื้นพรม เนื่องจากแรงสำหรับดูดฝุ่นไม่มาก
2.)  เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย มุ่งเน้นความคล่องแคล่วสำหรับทำงาน เพราะสามารถชาร์จพลังงานก่อนที่จะนำไปใช้งาน รวมถึงน้ำหนักเบาใช้งานง่าย เหมาะกับห้องที่มีพื้นที่ไม่มาก
3.) ที่ดูดฝุ่นมือถือ เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ไม่มีถุงเก็บฝุ่น สะดวกต่อการทำงานสำหรับพื้นที่เล็กๆ เช่น รถยนต์
4.) หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทำให้ทำความสะอาดอัตโนมัติได้ด้วยการใส่โปรแกรม และยังช่วยให้เข้าถึงบริเวณที่มุ่งหวังทำความสะอาดได้แบบสะดวกมาก พร้อมเซ็นเซอร์สแกนสิ่งกีดขวางพร้อมกับยางกันกระแทก
            ประเด็นที่สอง สถานที่ในการใช้งาน ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องเอามาคิดเพราะว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อความจุของที่ดูดฝุ่น รวมทั้งที่พักอาศัยของคุณมีมุมอับหรือเปล่า ถ้าเลือกเครื่องดูดฝุ่นความจุเล็กเกินพอดีจะทำให้เครื่องดูดฝุ่นทำงานมากไป ทำความสะอาดได้ไม่ดี รวมถึงส่งผลให้พังเร็วขึ้น
ประเด็นที่สาม เรื่องของฟังก์ชั่น บวกกับความสามารถสำหรับเก็บกวาดสำหรับที่ดูดฝุ่น เรื่องนี้ควรพิจารณาตั้งแต่แรงไฟ โดยที่ต้องจำเป็นจะต้องเลือกซื้อให้เหมาะสมต่อการใช้งานเพราะถ้ากำลังไฟต่ำก็มีผลต่อกำลังสำหรับดูดฝุ่น ถัดมาก็คือพวกโครงสร้างต่างๆ ในแต่ละแบรนด์กับแต่ละรุ่นก็มักมีโครงสร้างที่ต่างกันไป อย่างเช่น อาจจะกดฝุ่นให้เป็นก้อนเพื่อให้สบายกับการเก็บ หรือว่ามีระบบการกรองมากขั้นสำหรับที่จะไม่ให้ฝุ่นออกจากเครื่อง ฯลฯ คุณเลยต้องเช็คว่าที่ดูดฝุ่นแบบใดที่ตรงใจคุณที่สุด
            สุดท้ายเป็น ประเด็นเกี่ยวกับคุณลักษณะ ราคา รวมถึงอายุใช้งาน คือประเด็นที่จำเป็นต้องคิดว่าคุณภาพกับมูลค่าเป็นไปในคู่ควรกันหรือไม่และคุ้มที่จะซื้อเพื่อนำไปใช้งานหรือเปล่าก็เพราะว่าต่อมาคืออายุการใช้งานหากเลือกใช้สินค้าที่ไม่ตรงในการทำงานไปทำให้อายุใช้งานน้อยลงรวมถึงถือเป็นการสิ้นเปลือง
ที่ดูดฝุ่นที่น่าซื้อที่จะนำมาแนะนำ ยกตัวอย่างเช่น

  • HITACHI ที่ดูดฝุ่นแบบกล่อง รุ่น CV-SH20V กำลังมอเตอร์ 2000 วัตต์ น้ำหนัก9 กิโลกรัม ช่วยให้เรากำจัดไรฝุ่นได้การพิสูจน์คุณภาพด้วยสถาบันโรคภูมิแพ้ แห่งประเทศอังกฤษ (Allergy UK) กล่องเก็บฝุ่นไซโคลน ปริมาตรความจุ 1.6 ลิตร กดบีบฝุ่นละอองเป็นก้อนทำให้สะดวกในการกำจัด ไม่ฟุ้งกระจาย เพราะว่าระบบสกัดฝุ่น 7 กระบวนการ พร้อมกับที่กรองเฮป้า รวมถึงนาโน ไททาเนียม ดักจับกลิ่น หยุดการทำงานโดยอัตโนมัติกรณีเครื่องร้อน สนนราคา 4,190 บาท
  • PHILIPS หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ประเภท FC8822/01 พร้อมด้วยระบบ SMART DETECTION SYSTEM ปรับเปลี่ยนโหมดในสภาวะแวดล้อม พลังงาน LI-ION ช่วยใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 120 นาที ระบบทำความสะอาด 3 กระบวนการ ที่ประกอบด้วยการเช็ดเก็บฝุ่นแบบแห้ง หุ่นยนต์ช่วยตรวจพื้นที่ที่สกปรกมากสำหรับที่จะเก็บกวาดเป็นพิเศษ และยังมีโหมดสแกนพื้นผิวที่ไม่เหมือนกันเพื่อที่จะเก็บกวาดอย่างถูกวิธี ราคา 21,990 บาท
  • DYSON ที่ดูดฝุ่นรูปแบบด้ามจับ (0.54 ลิตร) รุ่น SV10(V8) Absolute PlusV8 Absolute Plus ที่ดูดฝุ่นไร้สาย มาพร้อมกับการใช้งาน ทั่วถึงทุกรูปแบบ มีความมั่นคงทนทาน ใช้สะดวกสบาย ด้วยระบบพายุไซโคลนเรเดียล 2 ระดับ ที่จะเพิ่มการไหลวนของอากาศรวมถึงดักฝุ่นละอองขนาดเล็ก หัวทำความสะอาดชนิด Direct-drive เก็บกวาดตรงเข้าไปกับพรมเพื่อขจัดรอยสกปรกที่พื้น ในด้าน หัวเก็บกวาดชนิดลูกกลิ้งนุ่มออกแบบมาสำหรับพื้นแข็ง ยังมาพร้อมด้วยระบบกลั่นลักษณะแกะออกไปทำความสะอาดได้ด้วย ในราคา 28,900 บาท


จะเห็นว่า ยี่ห้อทุกยี่ห้อพยายามพัฒนาและยังใช้เทคโนโลยีล่าสุด ใส่ไปเพื่อความง่ายกับผู้ใช้งาน ดังนั้น การเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นซักเครื่องให้เหมาะสมกับการทำงานเลยไม่ได้เป็นเรื่องไม่ง่ายเสมอไป
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เครื่องดูดฝุ่น ราคา

Tags : เครื่องดูดฝุ่น,เครื่องดูดฝุ่น ราคา,เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี