สวัสดี บุคคลทั่วไป

ประวัติศาสตร์วงการ ร็อกแอนด์โรล ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 184 อ่าน
                ถ้าหากคุณคือผู้ที่ตกหลุมรักในเสียงดนตรี หรือเสียงดนตรี เชื่อว่าท่านจักต้องรู้จักแบรนด์เครื่องเสียงแบรนด์นี้เป็นอย่างดีแน่นอน เพราะเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมขนานใหญ่ ดังเช่น ลำโพง หูฟัง เครื่องขยายเสียง และอื่นๆ อีกมากมายก่ายกอง ซึ่งเรื่องราวประวัติของยี่ห้อนี้ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของตำนานกลุ่มดนตรีRock and Rollเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยี่ห้อที่กำลังกล่าวขวัญอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง โดยความเป็นมาของ Marshall นั้น จักมีความเป็นมาเช่นไรบ้าง พร้อมด้วยเพราะเหตุใดถึงได้มาเป็นแบรนด์ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ พวกเราจะมาค้นหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้ก่อตั้งโดย Jim Marshall ซึ่งจุดแรกเริ่มอยู่ที่การเป็นนักดนตรีมืออาชีพมาก่อน โดยเล่นในตำแหน่งมือกลอง หลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยนตนเองมาบริหารธุรกิจร้านขายเครื่องดนตรี พร้อมกับเครื่องมือมากมาย โดยเริ่มต้นจากการจำหน่ายกลองชุดอีกทั้งกีตาร์ในลอนดอนเขตแดน Hanwell ซึ่งผู้บริโภคโดยมากจักเป็นนักดนตรีดนตรีRock 'n' Roll ที่มีความโด่งดังในคราวนั้น ไม่ว่าจะเป็น ริตชี แบล็กมอร์ หรือไม่ก็เป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจเป็นเหตุผลที่เป็นเหตุให้มีผู้ซื้อมากขึ้น
                จากนั้นก็เริ่มมีนักดนตรีดัง หลายคนต้องการแอมป์ หรือเครื่องขยายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ และเสียงดังกว่าเดิม เนื่องจากอุปสรรคที่พบโดยมากค่อนข้างเป็นเรื่องความเสียงดังของเครื่องกระจายเสียงที่ไม่พอในการบรรเลงแสดงสดนั่นเอง Marshall จึงได้ตกลงใจทดลองออกมาจัดจำหน่าย และดันสำเร็จอย่างยิ่ง กลายเป็นการบอกปากต่อปาก กระทั่งคณะดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงจัดหามาทำออกมาขายอย่างตั้งใจ พร้อมด้วยได้จัดตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นณปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นจุดเริ่มของยี่ห้อ Marshall อย่างถ่องแท้
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่ทำให้นักดนตรีทั้งหลายถูกใจ รวมไปถึงยังบอกคือเสียงเดียวกันว่าคือแอมป์กีตาร์ที่น้ำเสียงยอดเยี่ยมเท่าที่เคยมีมา (ในระยะเวลานั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และถัดจากนั้นมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาสร้างแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลากหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความวางใจจากมือกีตาร์สายบลูส์ สายร็อก จากวงดัง ระดับตำนานตัวอย่างเช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมทั้ง AC/DC เป็นต้น
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในยุค 60 ของ Marshall ฉบับรวบรัดตัดความ อย่างไรก็ดีครั้นเมื่อสมัยได้ผ่านพ้นก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล แบรนด์ Marshall ที่เชี่ยวชาญในแวดวงเครื่องเสียงก็ได้ปรับปรุงและหยิบยกเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมมือในการสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อทันยุค ทันสมัย พร้อมทั้งถูกต้องตามความต้องการ หรือตอบโจทย์ผู้ซื้อเพิ่มขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone โดยเป็นสินค้าจำพวกหูฟัง เพื่อให้ผู้ซื้อ หรือว่าคนทั่วไปให้ได้รับประสบการณ์การสดับตรับฟังเพลงในแบบของ Marshall รวมไปถึงผลิตภัณฑ์กลุ่มลำโพงที่สามารถเชื่อมบลูทูธได้ โดยนั่นเป็นเหตุให้ Marshall ได้รับความนิยมอย่างเต็มเปี่ยมเช่นกัน ด้วยแบบเสียงที่ไม่ซ้ำใคร และการออกแบบที่ดูเป็นวินเทจ คลาสสิค ดูดี โดยรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าดึงดูด อีกทั้งจะแนะนำนั่นก็คือ หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth พร้อมกับลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore โดยจะมีรายละเอียดปลีกย่อยดังนี้
 
หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                เป็นหูฟังไม่มีสายที่มีความคลาสสิคอยู่ในตัว ออกแบบสวยงาม เรียบร้อยมีสไตล์ ขนาดเล็กสามารถพับได้ ทำให้พกพาไปไหนต่อไหนได้ง่าย มีการต่ออย่างเร็วด้วย Bluetooth 4.0 อย่างไรก็ตามสามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเช่นเดียวกัน  สามารถใช้งานได้นานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ Li-ion Polymer (680mAh) และกินเวลาชาร์จน้อยกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งผ่าน Micro USB ส่วนของสุรเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เหตุด้วยเบสแน่นๆ เสียงร้องชัด มีเสียงแหลมที่ไม่บาดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกแยะรายละเอียดปลีกย่อยของชิ้นดนตรีต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม เหมาะสมกับการเป็นสุดยอดตำนานแบรนด์เครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกจริงๆ ซึ่งหูฟังไร้สาย Marshall รุ่นนี้ สนนราคาจะอยู่ที่ไม่มากเกิน 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                คือลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ที่ได้ออกจำหน่ายเป็นเวลายาวนานแล้วเช่นกัน แต่ว่าเรื่องของคุณภาพนั้นมิได้แย่ไปกว่าแต่ก่อนเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้น้ำเสียงที่กระจ่างครบบริบูรณ์ ด้วยระบบชิป aptX ดีไซน์ด้วยไดร์ฟเวอร์ด้านในทั้งสิ้น 3 ตัว รวมไปถึงยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือแจ็คขนาด 3.5 มม. พร้อมด้วย INPUT2 หรือ RCA นอกจากนี้ยังมีฝีไม้ลายมือในการปรับเสียงทุ้มแหลมได้อีกด้วย ให้เสียงเหมือนกับคุณกำลังฟังเพลงจากการเล่นดนตรีสดเลยก็ว่าได้ โดยลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จักมีความถูกที่ไม่มากเกิน 15,900 บาท หากเปรียบเทียบสุรเสียงที่ได้รับ ถือว่าคุ้มค่ามากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางดีฉันได้ยกมาฝากกันในวันนี้ โดยจะเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยก่อนจวบจนถึงยุคปัจจุบันนั้น หมู่เรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์แบรนด์ Marshall เชื้อชาติอังกฤษนี้แทบทุกเวทีเลย รวมถึงหูฟัง และลำโพงที่นานัปการหลากหลายรุ่นที่ไม่ว่ายุคจักผ่านพ้นนานเพียงใด ทว่า Marshall ก็ยังคงไว้ความคลาสสิคตามสไตล์แบบ Marshall มิเคยเปลี่ยนแปลง

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall